iSEE (Information System for Equitable Education) คือระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ซึ่งวิจัยและพัฒนาโดยสถาบันวิจัยกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (วสศ.) เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่จะช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำของประเทศไทย โดยมี ข้อมูลรายบุคคล ครอบคลุมถึงกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์และด้อยโอกาส โดยเชื่อมโยงจากเลขประจำตัวประชาชนของเด็กและครอบครัวกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐรวม 6 กระทรวง และข้อมูลจากระบบสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS)
ทั้งนี้ iSEE มีความสำคัญในฐานะที่เป็นเครื่องมือช่วยให้ทุกหน่วยงานใช้เพื่อดูแลกลุ่มเป้าหมาย และยังช่วยให้รัฐบาลสามารถมองเห็นและติดตามสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ เพื่อขยายผลไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ ของเด็กและเยาวชนต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ในเวอร์ชันล่าสุดของระบบ iSEE 3.0 จะมีการแสดงผลที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมได้แก่
- ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากทุนสร้างโอกาสและนวัตกรรมต้นแบบทั้งหมดของ กสศ.
- จำนวนนักเรียนและนักศึกษาที่ได้รับความช่วยเหลือจาก กสศ.
- ข้อมูลการดำเนินการของ กสศ. ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะสะท้อนกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียนยากจน และด้อยโอกาสต่างๆ ที่ กสศ. ให้ความช่วยเหลือ
- แสดงข้อมูลเด็กและเยาวชนที่อยู่นอกระบบการศึกษา ดำเนินการสำรวจโดย กสศ.
- ค้นหาสถานศึกษาจากสถานที่ที่ใกล้เคียงที่สุด เสมือน Google Map ทางการศึกษา
- งานวิจัยจาก กสศ.
ข้อมูลที่แสดงผลในระบบนั้นเกิดจากการทำงานร่วมกันระหว่างภาคีเครือข่ายมากมาย โดยเฉพาะภาคีต้นสังกัดทางการศึกษา ทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) รวมไปถึงสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) อีกด้วย
ตัวอย่างการแสดงผลการดำเนินโครงการของ กสศ. ในระบบ iSEE รุ่นก่อนหน้า อาทิ โครงการทุนเสมอภาค ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักเรียนกลุ่มยากจนพิเศษ มีรายได้ต่ำกว่ากึ่งหนึ่งของเส้นความยากจน โดยทาง กสศ. ได้เริ่มช่วยเหลือนักเรียนกลุ่มนี้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2561-2565 โดยในระบบเก่าจะมีการนำเสนอรายละเอียดของการให้ทุนเสมอภาค เฉพาะนักเรียนยากจนพิเศษที่ได้รับทุนเสมอภาค และนักเรียนยากจนที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากต้นสังกัด
ในระบบ iSEE 3.0 จะเห็นข้อมูลการศึกษาที่มากกว่าการศึกษาภาคบังคับ เช่น การทำงานของ กสศ. ที่สนับสนุนการศึกษาระดับอาชีวศึกษา ปวช. ปวส. ซึ่งมีการจัดสรรทุนให้กับกลุ่มนักเรียนยากจนที่ผ่านการคัดกรองแล้ว โดยข้อมูลในส่วนนี้จะแสดงผลให้เห็นในระบบด้วย
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลทุนอื่นๆ ที่มีการจัดสรรให้กับนักศึกษาที่มีความประสงค์จะเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา และมีการจัดสรรทุนให้กับหน่วยจัดการเรียนรู้ต่างๆ ไปพัฒนาทักษะอาชีพและนวัตกรรม โดยใช้บริบทของชุมชนเป็นแนวทางในการพัฒนา เพราะทาง กสศ. ตระหนักดีว่าปัญหาการหลุดออกจากระบบการศึกษาไม่ได้ส่งผลกระทบเฉพาะเด็กในยุคปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังกระทบกับผู้ปกครองของเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาไปแล้วก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ได้รับการพัฒนาและจะสร้างประโยชน์แก่การนำข้อมูลไปทำงานเชิงพื้นที่ได้อย่างแม่นยำ คือในส่วนของฟีเจอร์ ‘การดำเนินงานของ กสศ. ในพื้นที่ของท่าน’ ที่จะสามารถเลือกดูการดำเนินงานของ กสศ. ทุกโครงการและทุกจังหวัด เพื่อศึกษารายละเอียดทุนของ กสศ. และรายละเอียดนวัตกรรมต้นแบบต่างๆ
นอกจากที่ยกตัวอย่างมาแล้ว ยังมีข้อมูลการแสดงผลอื่นๆ ในระบบ iSEE 3.0 ที่จะเป็นสารตั้งต้นในการเชื่อมโยงหน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมทำความเข้าใจสถานการณ์ และหาแนวทางจัดการที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ในด้านของการใช้งานจริง มีตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมอย่างจังหวัดพะเยา ที่ได้ใช้ข้อมูลจาก iSEE ในการศึกษาค้นหาปัญหาของคนแต่ละกลุ่ม ผสานรวมกับต้นทุนทางวัฒนธรรม เพื่อจัดทำแหล่งเรียนรู้ช่วยเหลือเด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษา และแรงงานที่ตกงานจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และส่งต่อคนกลุ่มนี้ให้ได้เรียนรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่สร้างขึ้นให้ได้มากที่สุด
ในกรณีของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีการทำงานเชิงพื้นที่โดยมุ่งเป้าไปที่เยาวชนที่อยู่นอกระบบ ช่วงอายุ 15-24 ปี ในการจัดการความเหลื่อมล้ำเชิงพื้นที่ และได้นำข้อมูลจากฐานข้อมูล iSEE มาสนับสนุนการทำงาน โดยจะมีการวิเคราะห์ข้อมูลออกมาเป็นรายตำบลและหมู่บ้าน จากนั้นนำข้อมูลเข้าประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงสร้างภาคีเครือข่ายกับกลุ่มอื่นๆ ผ่านการใช้กลไกที่หลากหลาย เพื่อระดมหลายภาคส่วนให้ร่วมกันออกแบบแนวทางการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในระดับพื้นที่
อ้างอิง: