บางครั้งอุปสรรคของการเรียนรู้ อาจไม่ใช่การขาดทรัพยากร หรือสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวย แต่อาจอยู่ในรูปแบบของปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะ “ปัญหาสายตา” หากเด็กไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน การเรียนรู้และการใช้ชีวิตประจำวันก็จะขาดประสิทธิภาพไปด้วย หากไม่ตรวจพบปัญหาตั้งแต่เนิ่นๆ อาจไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและอาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงในอนาคต
การวัดสายตาครั้งนึงก็ต้องใช้อุปกรณ์ที่มีราคาแพงและต้องให้จักษุแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงมาตรวจ แต่จากข้อจำกัดของจำนวนจักษุแพทย์ต่อจำนวนเด็กมีไม่เพียงพอและใช้เวลานานในการตรวจคัดกรองต่อ 1 คน ทำให้ไม่สามารถตรวจคัดกรองสายตาเด็กได้อย่างทั่วถึง
ในขณะที่อินเดียคิดค้นอุปกรณ์คัดกรองสายตาเบื้องต้น ที่ชื่อว่า “Folding Foropter” หรือ “FoFo” ให้ได้ค่าตามมาตรฐานเดียวกับการตรวจในคลินิก เพื่อแก้ปัญหาการวัดค่าสายตาที่ขาดประสิทธิภาพในระหว่างลงพื้นที่ภาคสนาม
FoFo ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้องโทรทรรศน์ จึงมีลักษณะเป็นกล่องกระดาษที่พับรอบเลนส์สองชิ้น เหมือนท่อสองอันที่เลื่อนเข้าและออกจากกัน เมื่อลองส่องเข้าไปและมองไปที่เป้าหมาย พร้อมกับเลื่อนกล่องให้เห็นเป้าหมายอย่างชัดเจน สามารถดูค่าสายตาสั้นยาวได้จากข้างกล่อง แต่ก็ยังไม่สามารถบอกค่าสายตาเอียงได้
นอกจากนั้นอุปกรณ์ตัวนี้มีน้ำหนักเบา ทนทาน ประกอบง่าย ที่สำคัญคือใช้ต้นทุนในการทำต่ำมาก เหมาะสำหรับคัดกรองสายตาในชุมชนและโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล เพราะช่วยบอกความผิดปกติของสายตาในเด็กนักเรียนที่มีจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมันช่วยลดระยะเวลาและภาระของเจ้าหน้าที่ในการตรวจภาคสนามได้อีกด้วย
นวัตกรรมนี้ อาจสร้างแรงบันดาลใจในการนำไปปรับใช้กับการช่วยเหลือเจ้าหน้าที่หรือจักษุแพทย์ในประเทศไทยในการตรวจคัดกรองสายตาเด็กเบื้องต้นได้ ช่วยลดทั้งระยะเวลาในการตรวจเด็กจำนวนมาก ภาระของเจ้าหน้าที่ และเพิ่มความคุ้มค่าในการตรวจแต่ละครั้ง ยิ่งเจ้าหน้าที่สามารถตรวจพบความผิดปกติได้เร็วเท่าไหร่ เด็กก็ยิ่งมีโอกาสเข้าถึงคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้เพิ่มขึ้นและรวดเร็ว
อ้างอิง