เด็กบางคนบ้านอยู่ห่างไกลจากโรงเรียนและไม่มียานพาหนะ จึงจำเป็นที่จะต้องเดินไปโรงเรียน แต่แทนที่พวกเขาจะมีรองเท้าที่พอดีกับเท้าและมีคุณภาพดีใส่ กลับต้องใส่รองเท้าขาดๆและหลุดลุ่ยจนแทบจะใช้ไม่ได้เดินบนพื้นถนนที่สกปรกมีแต่ดินและหิน ซึ่งอาจทำให้เชื้อโรคมีโอกาสเข้าสู่ผิวหนังผ่านเท้าได้ง่าย เป็นต้นเหตุให้เด็กเจ็บป่วยจนขาดเรียนได้
ในประเทศไทยยังมีเด็กยากจนและยากจนพิเศษอีกจำนวนมากที่ต้องเดินไปโรงเรียนเพราะบ้านไม่มียานพาหนะมากถึง 1 ล้าน 2 แสน 2 หมื่นคนในปี 2562 จากข้อมูลของ iSEE หรือระบบที่ช่วยคัดกรองเด็กยากจนและยากจนพิเศษ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และพวกเขาอาจไม่มีรองเท้าที่เหมาะสำหรับการเดินทางใส่
แต่การบริจาครองเท้าไม่ใช่ทางออกที่ยั่งยืน เพราะแค่เพียง 1 ปี รองเท้าคู่นั้นก็จะใส่ไม่ได้อีกและวันนี้ก็มีทางออกแล้ว…
สตาร์ทอัพ Grofive ของอเมริกาเล็งเห็นปัญหาเด็กที่เคนยาใส่รองเท้าขนาดเล็กกว่าขนาดเท้าของตัวเองจนขาดเดินบนถนนที่สกปรก ทำให้เด็กมีโอกาสเป็นโรคทางเท้าได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดที่จะสร้างนวัตกรรม Shoes that grow รองเท้าที่สามารถปรับให้เข้ากับขนาดของเท้าได้เมื่อเด็กเท้าใหญ่ขึ้น เพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองซื้อรองเท้าคู่ใหม่บ่อยๆ รองเท้าคู่นี้สามารถปรับขนาดเท้าตามวัยที่เปลี่ยนแปลงได้ถึง 5 ปี รุ่นแรกสำหรับเด็กอายุ 4-9 ปีและอีกรุ่นสำหรับอายุ 9-14 ปี โดยปรับขนาดได้ถึง 3 ที่ คือ ที่ส้นเท้า ด้านข้างเท้าที่สามารถปรับขนาดให้ใหญ่เล็กได้ โดยใช้แถบแปะยึด และตรงปลายเท้า
ความพิเศษของมันอยู่ตรงที่พื้นรองเท้าทำมาจากยางคุณภาพดีและมีการเพิ่มความหนาของพื้นรองเท้าให้สัมผัสดินได้น้อยลง และสายหนังสังเคราะห์ที่ติดทนนาน ทำให้รองเท้ามีความทนทานและใช้งานได้นาน นอกจากนี้ยังมีกันกระแทกที่อยู่เหนือส้นรองเท้าขึ้นไปและหนังหัวรองเท้าที่ป้องกันการบาดเจ็บของเท้าได้อีกด้วย ปัจจุบันรองเท้าถูกส่งมอบให้กับเด็กๆในพื้นที่ทุรกันดารไปกว่า 200,000 คู่ มากกว่า 100 ประเทศแล้ว
รองเท้าถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งเล็กๆ แต่สิ่งเล็กๆเหล่านี้ก็ได้ช่วยเหลือเด็กที่ครอบครัวยากจนให้สามารถต่อยอดโอกาสแห่งความสำเร็จในอนาคตของพวกเขาได้
อ้างอิง