หลักการและเหตุผล
ตามที่พระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ.2561 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2561 มีผลให้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และมาตรา 47 ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน สิทธิ หน้าที่ หนี้ ภาระผูกพัน เจ้าหน้าที่ และลูกจ้าง และเงินงบประมาณของสํานักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชนไปเป็นของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา
โครงการวิจัยปฏิบัติการโรงเรียนพัฒนาคุณภาพต่อเนื่องเป็นโครงการที่ได้รับการสนับสนุน งบประมาณจากสํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) เพื่อการจัดระบบพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาที่เกิดจากความสมัครใจของสถานศึกษา โดยอาศัยหลักการพัฒนาคุณภาพต่อเนื่อง (Continuous Quality Improvement-CQI) ที่เกิดจากการมีส่วนร่วมของบุคลากรทั้งโรงเรียนระยะเวลาสองปี (พฤษภาคม 2560 ถึง เมษายน 2562) โดยโครงการดังกล่าวมีความสอดคล้องกับภารกิจของ กสศ. ในการส่งเสริม สนับสนุน และ ให้ความช่วยเหลือสถานศึกษา เพื่อให้มีการเรียนการสอนที่ทําให้ผู้เรียนสามารถรู้และพัฒนาได้ตามความถนัดและศักยภาพของตน
มาตรการสําคัญเพื่อยกระดับคุณภาพสถานศึกษา จากการทบทวนประสบการณ์จากต่างประเทศขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ หรือ โออีซีดี พบว่า การพัฒนาและใช้ระบบสารสนเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา เป็นเครื่องมือสําคัญในการลดช่องว่างทางคุณภาพระหว่างโรงเรียน กรณีศึกษาของบราซิลมีประชากรประมาณ 199 ล้านคน ภูมิประเทศกว้างใหญ่และหลากหลาย ช่องว่างฐานะของประชากรค่อนข้างมาก แต่การปฏิรูปการศึกษาก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาตรการสําคัญของบราซิล ได้แก่พัฒนาและใช้ระบบสารสนเทศเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา (Basic Education Development Index: IDEB) เป็นเครื่องมือสําคัญในการลดช่องว่างทางคุณภาพระหว่างโรงเรียน ระบบข้อมูลนี้เป็นเครื่องมือในการดําเนินมาตรการปฏิรูปการดําเนินงานของโรงเรียนต่างๆ เช่น การจัดการแรงจูงใจบุคลากรทางการศึกษาและผู้บริหาร การส่งเสริมความรับผิดชอบของโรงเรียน การจัดงบประมาณเพื่อลดความเหลื่อมล้ําและเพิ่มประสิทธิภาพ เป็นต้น IDEB ทําหน้าที่ดังเครื่องรับสัญญาณ (Sensor) และระบบแจ้งเตือน (Warning System) ให้รัฐบาลและคนทั้งประเทศได้รู้ถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เช่น การไม่มาเรียน การหลุดออกนอกระบบ ของนักเรียนรายคน สถานะและผลการดําเนินงานของโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ ผู้บริหารทุกระดับรวมถึงพ่อแม่ผู้ปกครองสามารถใช้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจส่งผลให้ทุกโรงเรียนกระตือรือร้นที่จะพัฒนาคุณภาพ
เพื่อสนับสนุนมาตรการยกระดับคุณภาพสถานศึกษา กสศ.ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้โครงการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อสร้างหลักประกัน โอกาสทางการเรียนรู้ ได้มีการพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา (Quality learning Information System หรือ Q-Info) และทดลองนําร่องในโรงเรียนในโครงการพัฒนาคุณภาพต่อเนื่องจํานวน 198 แห่งซึ่งเป็นโรงเรียนในพื้นที่ยากลําบาก ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนมัธยมขยายโอกาส ในภาพใหญ่ของประเทศโรงเรียนกลุ่มเป้าหมายนี้จัดเป็นกลุ่มโรงเรียนที่นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์เฉลี่ยต่ําที่สุด (นอกเหนือจากโรงเรียนขนาดเล็ก) ใน 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน น่าน เชียงราย ลําปางสุโขทัย เพชรบุรี ชลบุรี กาญจนบุรีและ อยุธยา สุรินทร์ อํานาจเจริญ สุราษฎร์ธานีและภูเก็ต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้เกิดการใช้ข้อมูลเพื่อเป็นเครื่องมือในการกําหนดนโยบายด้านการศึกษา การติดตามเปรียบเทียบคุณภาพทางการศึกษาของโรงเรียน และพื้นที่ต่างๆ รวมถึงการวางแผนเพื่อพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา ซึ่งเป็นกลไกสําคัญในการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ ผ่านกระบวนการส่งเสริมความรับผิดชอบ (Accountability) หรือ กระบวนการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Key Stakeholders) ต่อโอกาสทางการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่
จากการวิเคราะห์การทํางาน Q-Info ของโรงเรียนในระยะที่ผ่านมา (พฤษภาคม 2560 – กันยายน 2561) พบว่า โรงเรียนมีพัฒนาการแตกต่างกัน โดยเป็นกลุ่มระดับดีมากร้อยละ 19.1 ระดับดีร้อยละ 29.6 ระดับท้าทายร้อยละ 51.1 เพื่อส่งเสริมและยกระดับให้การดําเนินงาน Q-info ของโรงเรียนอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือสถานศึกษา เพื่อให้มีการเรียนการสอนที่ทําให้ผู้เรียนสามารถรู้และพัฒนาได้ กสศ. จึงจัดทําโครงการส่งเสริมและพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพโรงเรียน จึงเป็นที่มาของโครงการ