ใครๆก็เคยทำผิดพลาดกันทั้งนั้น แต่ความผิดพลาดอันร้ายแรงที่เคยได้กระทำไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไขได้ของเด็กในสถานพินิจ ทำให้พวกเขาไม่มีอนาคต ต้องหลุดออกจากระบบการศึกษาและอาจพลาดโอกาสที่จะใช้ชีวิตในสังคมปกติ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ควรจะได้รับการแก้ไขจากการทำงานร่วมกันของครอบครัวเพื่อไม่ให้พวกเขากระทำผิดซ้ำสอง
ป้ามล ทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการบ้านกาญจนาภิเษกและ Life Education TH จึงได้ร่วมกันพัฒนาชุดเครื่องมือ ‘Empower’ ขึ้นมาเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและซ่อมแซมความสัมพันธ์ในครอบครัวที่สึกหรอ ที่เป็นหนึ่งในต้นเหตุให้เด็กนั้นเข้าสู่การกระทำผิด ให้กลับมาเหนียวแน่นอีกครั้ง
จุดเริ่มต้นของชุดเครื่องมือนี้มาจากการที่ป้ามลได้ทำงานกับเด็กก้าวพลาดหรือต้องคดีในบ้านกาญจนาภิเษกและได้ออกแบบให้พวกเขาเรียนวิชาชีวิตโดยให้เขียนบันทึกก่อนนอน ด้วยการวิเคราะห์ข่าว หนัง หรือถกเถียงแลกเปลี่ยนประเด็นร้อนในสังคม จากกระบวนการนี้ทำให้ป้ามลได้มีโอกาสอ่านบันทึกของพวกเขา ซึ่งพบปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของเด็กก้าวพลาด 2 ปัจจัย คือ “ปัจจัยผลักใสไล่ส่ง” เป็นปัจจัยภายในครอบครัวที่ทำให้เด็กไม่มีความสุข จึงเป็นแรงผลักเด็กออกไป และ “ปัจจัยที่ดึงดูดนอกบ้าน” แรงดึงดูดจากสิ่งไม่ดีภายนอกที่จะชักนำให้พวกเขาทำในสิ่งที่ผิด ทั้ง 2 ปัจจัยต่างทำให้ความเปราะบางของพวกเขาพังทลายลง
ป้ามลจึงได้จัดกิจกรรมโดยใช้ชุดเครื่องมือ Empower เยียวยาครอบครัว ด้วยการทำงานร่วมกับพ่อแม่ นำ Keyword จากบันทึกของเด็กๆมาทำเป็นการ์ด มีรูปการ์ตูนกราฟฟิกและมีการแยกสีระหว่างปัจจัยผลักไสไล่ส่งเด็กออกจากบ้านและปัจจัยดึงดูดนอกบ้าน กิจกรรมนี้ชวนให้พ่อแม่ลูกแต่ละครอบครัวร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ว่าความผิดพลาดของลูกนั้นมีปัจจัยอะไรที่มาเกี่ยวข้อง โดยจะแจกการ์ดที่มีข้อความจากบันทึกของเด็กๆอยู่ พร้อมกับให้ลูกเลือกการ์ดขึ้นมา แล้ววางตามช่องบนบอร์ดที่มีอยู่ 2 ด้าน คือ ด้านที่เป็นปัจจัยผลักไสไล่ส่งลูกออกจากบ้านและด้านที่เป็นปัจจัยดึงดูดนอกบ้าน
เมื่อลูกเลือกการ์ดและวางในบอร์ดแล้ว ก็ให้บอกเล่าความคิด ความรู้สึกของตนเองต่อพ่อแม่อย่างมีเหตุผล ซึ่งคำตอบได้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาภายในบ้านและความรู้สึกที่พวกเขาอยากจะระบายให้คนในบ้านรับรู้ เมื่อพ่อแม่รับรู้ก็จะเกิดการอธิบายเหตุผลกลับว่า ทำไมจึงต้องทำแบบนั้น ซึ่งจะมีผู้นำกระบวนการคอยช่วย ทำให้การพูดคุยเป็นไปบนพื้นฐานของความเข้าใจ เช่น ครอบครัวหนึ่ง ลูกเลือกการ์ดเปรียบเทียบและเล่าความรู้สึกว่าทุกครั้งที่พ่อแม่เปรียบเทียบเขากับคนอื่น เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า ไม่มีแรงปีนขึ้นสู่ที่สูงแต่จะไหลลงที่ต่ำเสมอ ส่วนแม่ก็อธิบายกลับว่า อยากให้ลูกเห็นตัวอย่างดีๆ ได้แรงบันดาลใจและรู้สึกตกใจมากเมื่อรู้ว่าลูกคิดคนละแบบกับพ่อแม่ เมื่อรับรู้และเห็นปัญหาแล้วก็จะนำไปสู่ความเข้าใจและการแก้ไขปรับปรุงพฤติกรรมตามมา
สำหรับชุดเครื่องมือนี้อาจไม่ได้เป็นจุดคลี่คลายหรือจุดจบของทุกเรื่องในครอบครัว แต่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพูดคุย หาสาเหตุเพื่อแก้ไขปัญหาและทางออกที่ดี ดังนั้นการร่วมมือกันในครอบครัวมีส่วนสำคัญที่จะไม่ทำให้พวกเขาก้าวพลาดซ้ำ และสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมโดยไม่รู้สึกว่าตัวเองแปลกแยก
อ้างอิง