เสียงเรียกร้องจากคณะทำงานนานาชาติด้านครู ว่าด้วยการศึกษาปี2030 (International Task Force on Teachers for Education 2030 )
การที่โรงเรียนจาก 165 ประเทศทั่วโลก ต้องถูกปิดลงในวันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นมา เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อนักเรียนเกือบ 1.5 พันล้านคน รวมถึงครูทั้งระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา จำนวน 63 ล้านคนทั่วโลก และคาดการณ์ว่าตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การที่โรงเรียนจากทั่วโลกต้องถูกปิดเช่นนี้ นับเป็นความท้าทายอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนต่อระบบการศึกษาของโลก และจะเห็นได้ว่าวิกฤติในครั้งนี้ได้ทำให้เป้าหมายของการพัฒนาในระดับโลกคงต้องชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่ 4 ของการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาติ (SDG Goals) ที่ว่าด้วย “การสร้างหลักประกันว่าทุกคนจะต้องได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต” รวมไปถึงส่งผลให้วิกฤตการเรียนรู้และความไม่เท่าเทียมกันทางการศึกษาทั่วโลกมีแนวโน้มรุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ยากจน ด้อยโอกาสที่สุด
จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสนับสนุนทั้งด้านเงินทุนและด้านการให้การศึกษาไปยังระบบการศึกษาต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง การสนับสนุนทั้งด้านความเป็นผู้นำ แหล่งทรัพยากรทางการเงินและวัสดุอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอน ล้วนจำเป็นต่อระบบการเรียนการสอนและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ เพื่อให้สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้ว่า ระบบการเรียนการสอนที่มีคุณภาพจะยังคงดำเนินต่อไปได้ท่ามกลางวิกฤตนี้และโรงเรียนจำเป็นต้องสามารถกลับมาเปิดการเรียนการสอนในสภาพที่พร้อมที่สุดได้อีกครั้ง เพื่อที่นักเรียนนับล้านคนจะไม่พลาดการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนจากประเทศที่ยากจนที่สุดและจากชุมชนชายขอบซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด
เพื่อให้แน่ใจว่าการเรียนรู้จะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้วิกฤต COVID-19 ครูผู้ซึ่งเป็นกำลังหลักของระบบการศึกษาที่มีหน้าที่ทำให้ผู้เรียนสามารถบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ จะต้องทำอย่างร่วมกับผู้บริหารสถานศึกษาเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถสร้างการเรียนรู้ทางไกลที่มีคุณภาพ รวมไปถึงการเรียนรู้และให้ข้อมูลในเรื่องมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาดนี้แก่ผู้เรียนด้วยเช่นกัน
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น คณะทำงานนานาชาติด้านครูว่าด้วยการศึกษาปี 2030 ขอเรียกร้องให้รัฐบาล ผู้บริหารทางการศึกษา และผู้สนับสนุนเงินทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชน ได้ตระหนักถึงบทบาทสำคัญของครูในการมีส่วนร่วมต่อการฟื้นฟูวิกฤตในครั้งนี้ และขอเรียกร้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดังกล่าวดำเนินการดังนี้
- การคงการจ้างงานและค่าตอบแทน รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการศึกษาตามมาตรฐานและบรรทัดฐานการจ้างงาน
- ให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆต่อสุขอนามัยความปลอดภัยและความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งครูและผู้เรียน ให้การสนับสนุนทั้งทางอารมณ์และจิตใจที่ครูจะเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดวิกฤติ จัดสรรเครื่องมือในการสื่อสารความเสี่ยงด้านสุขภาพและมาตรการป้องกันให้กับนักเรียนอย่างเพียงพอ
- ทำให้ครูเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรับมือกับสถานการณ์COVID-19 ในส่วนที่มีผลกระทบต่อการศึกษาโดยมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนของการกำหนดนโยบายและการวางแผนการศึกษา
- ให้การสนับสนุนและการฝึกอบรมด้านวิชาชีพครูอย่างเพียงพอ ทำให้ครูได้รับการฝึกอบรมที่จำเป็น รวมไปถึงทำให้เกิดระบบการศึกษาที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของครูและผู้เรียนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตได้ เพื่อให้แน่ใจว่าครูและระบบการศึกษาจะสามารถตอบสนองได้ดีขึ้นหากเกิดวิกฤติในอนาคต
- ให้ความสำคัญกับ “ความเสมอภาค” ว่าเป็นหัวใจของการตอบสนองทางการศึกษา เช่น จัดหาเทคโนโลยีที่จำเป็นและมีการตรวจสอบดูแลอย่างรอบคอบ ใช้สื่อการสอนทั้งเทคโนโลยีดิจิตอลและแบบดั้งเดิม โดยเน้นไปที่ความเท่าเทียมกันของผู้เรียนในการเรียนรู้ทางไกลอย่างต่อเนื่อง
- ถือว่าครูเป็นผู้ต้องการความช่วยเหลือกลุ่มสำคัญจากวิกฤติในครั้งนี้ที่ต้องการช่วยเหลือผ่านกระบวนการพัฒนาวิชาชีพครู โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก