ย้อนกลับไปในอดีต อาชีพครูถูกเปรียบเปรยด้วยความยกย่องเชิดชู ตั้งแต่ ‘แม่พิมพ์ของชาติ’ ไปจนถึงคำที่ให้ความหมายอย่างถ่อมตนว่า ‘เรือจ้าง’ แต่สิ่งที่สังคมคาดหวังจากครูมาโดยตลอดคือ การเป็นผู้ให้ความรู้ ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา เพื่อให้ลูกศิษย์มีความรู้แตกฉานในสาขาวิชาต่างๆ หรืออย่างน้อยที่สุดก็ให้นักเรียนมีความรู้ขั้นพื้นฐานติดตัวออกไปใช้ชีวิตนอกรั้วโรงเรียนได้
แต่ในโลกปัจจุบันที่หมุนเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนั้น ดูเหมือนว่าการทำหน้าที่เป็นเพียงครูผู้สอนตามตำราที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้อาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะโลกทุกวันนี้เรียกร้องให้ครูต้องปรับตัวมากกว่าเดิม เพื่อให้นักเรียนได้รับสิ่งที่ดีที่สุดได้ โดยครูจะต้องเรียนรู้บทบาทหน้าที่การเป็น ‘ผู้นำ’ และมี ‘ภาวะผู้นำ’ ในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้น
คำกล่าวข้างต้นไม่ใช่คำกล่าวที่ยกขึ้นมาลอยๆ แต่เป็นข้อค้นพบจากการศึกษาของ Bulletin of the Karaganda University ประเทศคาซัคสถาน จากกรณีศึกษาของ Zh.B.Khajayeva และ S.K.Abisheva (2016) ที่พบว่า ทักษะการจัดการห้องเรียนของครูนั้น ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการประสบความสำเร็จของผู้เรียน และส่งผลกับนโยบายของโรงเรียนในด้านต่างๆ จนทำให้ผู้วิจัยได้ข้อสรุปว่า หนึ่งในหน้าที่สำคัญของครูคือ การจัดการห้องเรียนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
ลักษณะของครูในการเป็นผู้นำที่ดีในห้องเรียนมีอยู่ 3 ประการ คือ 1. การมีระดับการควบคุมที่เหมาะสม 2. การมีระดับการให้ความร่วมมือที่เหมาะสม และ 3. การตระหนักรู้ถึงความต้องการเร่งด่วนของนักเรียน
ระดับการควบคุมที่เหมาะสม (Appropriate Levels of Dominance)
หมายถึง การกำหนดลักษณะของการควบคุมห้องเรียนที่จะทำให้การเรียนการสอนในชั้นเรียนเป็นไปได้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยมีองค์ประกอบหลักคือ การตั้งเป้าหมายพฤติกรรมที่เหมาะสมให้แก่เด็กอย่างชัดเจน กล่าวคือ การแจ้งให้ทราบถึงกฎระเบียบในชั้นเรียนและวิธีการเรียนที่ชัดเจนให้ทราบตั้งแต่ต้น ในขณะเดียวกันก็ต้องแจ้งถึงผลลัพธ์ที่จะตามมาของพฤติกรรมที่นักเรียนกระทำทั้งในบทลงโทษและรางวัล ต่อมาจึงนำไปสู่การตั้งเป้าหมาย (clear learning goals) ว่าการเรียนการสอนในชั้นเรียนนี้จะมอบสิ่งใดเป็นเป้าหมายให้ผู้เรียนได้บ้าง และลำดับสุดท้ายคือ การจัดการเรียนรู้ให้เด็กในชั้นเรียนมีพฤติกรรมกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม
ระดับการให้ความร่วมมือที่เหมาะสม (Appropriate Levels of Cooperation)
หมายถึง การจัดการให้ห้องเรียนมีบรรยากาศการเรียนรู้ที่เอื้อให้เกิดความร่วมมือกันระหว่างผู้เรียนและผู้สอน หนึ่งในตัวอย่างง่ายๆ เช่น การใช้รูปแบบการเรียนการสอนที่ยืดหยุ่น (flexible learning) ให้ผู้เรียนสามารถตั้งเป้าหมายในการเรียนรู้ของตนเองได้ หรือการสอบถามผู้เรียนว่าต้องการบรรลุเป้าหมายใดจากชั้นเรียนนี้ และให้ความสำคัญกับทุกความสนใจของผู้เรียน เนื่องจากผู้เรียนทุกคนมักต้องการความสนใจในระดับปัจเจกจากผู้สอน รวมไปถึงการแสดงออกถึงความใกล้ชิด เท่าเทียม และพฤติกรรมเชิงบวกกับผู้เรียน อย่างเช่นการสบตา การใกล้ชิดกับนักเรียน ไปจนถึงการรอคอยการโต้ตอบจากนักเรียนในเวลาและท่าทีที่เหมาะสม ซึ่งจะส่งผลให้เกิดลักษณะความร่วมมือในการเรียนรู้มากขึ้นกว่าการป้อนข้อมูลทางเดียวแก่ผู้เรียน
การตระหนักรู้ถึงความต้องการเร่งด่วนของนักเรียน (Awareness of High-Needs Students)
คุณสมบัติของครูในข้อนี้มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก เนื่องจากการเรียนการสอนในชั้นเรียนมักเต็มไปด้วยเด็กที่หลากหลาย ต่างพื้นเพที่มา ดังเช่นจากงานวิจัยชิ้นนี้พบว่า มีนักเรียนร้อยละ 22 ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางด้านสุขภาพจิต ปัญหาด้านการจัดการควบคุมอารมณ์ และปัญหาความไม่ปกติของพฤติกรรม สอดคล้องกับรายงานของ The Association of School Counselors ที่ระบุว่า มีนักเรียนถึงร้อยละ 18 ที่ต้องการการช่วยเหลือพิเศษนอกเหนือไปจากทรัพยากรพื้นฐานที่ห้องเรียนมีให้ ดังนั้นครูในบทบาท ‘ผู้นำ’ จึงควรใส่ใจกับสภาพปัญหาพิเศษของผู้เรียนแต่ละคนในชั้นเรียนอย่างจริงจัง เพื่อดำเนินการแก้ไขหรือดูแลได้อย่างเหมาะสม
ความสำคัญของภาวะผู้นำสมัยใหม่ที่ครูจำเป็นต้องมีนั้น มีความแตกต่างไปจากบทบาทหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนแบบเดิมที่เคยเป็นมา ข้อค้นพบจากงานวิจัยระบุว่า ห้องเรียนที่ประสบความสำเร็จที่สุดไม่ใช่ห้องเรียนที่ผู้สอนปฏิบัติกับผู้เรียนทุกคนเหมือนกัน แต่คือการที่ผู้สอนเลือกที่จะใช้กลยุทธ์หลากหลายแบบให้เหมาะกับนักเรียนที่มีหลากหลาย ซึ่งการจะรู้ถึงสภาพปัญหาเฉพาะของผู้เรียนแต่ละคนนั้นสามารถทำได้ผ่านกระบวนการข้างต้นที่ได้กล่าวไป
ภาวะผู้นำของครู จะต้องไม่ใช่การทำให้นักเรียนกลายเป็นผู้ที่ต้องแข่งขันกันเองในชั้นเรียน แต่ครูต้องทำให้เกิดบรรยากาศความสัมพันธ์แบบไว้เนื้อเชื่อใจกันระหว่างผู้สอนและผู้เรียน ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนมีความกล้าแสดงออกถึงความสงสัยในปัญหาที่ตนเองไม่เข้าใจ มีความกล้าที่จะแสวงหาวิธีแก้ปัญหาและการขอความช่วยเหลือในกรณีที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหาและความท้าทายต่างๆ ซึ่งจะทำให้กระบวนการเรียนรู้ในห้องเรียนก้าวหน้าไปกว่าการเรียนการสอนในรูปแบบทั่วไป
นอกจากการมีภาวะผู้นำของครูจะส่งผลดีแก่ผู้เรียนแล้ว ยังส่งผลดีไปถึงสภาพแวดล้อมโดยทั่วไปของโรงเรียน เช่น ทำให้บรรยากาศในหมู่เพื่อนร่วมงานและความสัมพันธ์ในหมู่ครูดีขึ้น เกิดกระบวนการแบ่งปันข้อมูลข่าวสารหรือวิธีการสอนแบบใหม่ๆ และยังทำให้ครูในฐานะ ‘ผู้สอน’ กลายเป็น ‘ผู้เรียน’ โดยเรียนรู้จากครูที่มีภาวะผู้นำ เพื่อนำไปปรับปรุงการออกแบบชั้นเรียนของตนเองได้อีกด้วย
การศึกษาภาวะผู้นำในงานวิจัยชิ้นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นและได้ผลเพียงแค่ในประเทศคาซัคสถาน แต่ยังถูกหยิบยกไปเป็นหัวข้อเสวนาเรื่อง ‘School Leadership and Management’ ในงาน Equitable Education Coference 2020 อีกด้วย
วิทยากรภายในงานเสวนาอย่าง Mr.Kwesi Rollins จาก Institute for Educational Leadership ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวว่า จากงานศึกษาการพัฒนาภาวะผู้นำของครูในโรงเรียน พบว่าส่งผลไปในทางบวกกับผู้เรียน เริ่มจากการมีวิสัยทัศน์ การมองเห็นทิศทางการพัฒนา การพัฒนาผู้สอนและวิธีการสอน และปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมขององค์กรให้ตรงกับทิศทางและพฤติกรรมใหม่ของผู้สอน
กระบวนการพัฒนาภาวะผู้นำในโรงเรียน สอดคล้องกับสิ่งที่วิทยากรอีกท่านหนึ่งอย่าง Mrs.Chua-Lim Yen Ching จากกระทรวงการศึกษา ประเทศสิงคโปร์ ที่ได้กล่าวไว้ว่า การกำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายสำหรับโรงเรียนนั้นจะต้องเป็นมากกว่าคำพูดติดผนัง แม้ว่าเป้าหมายและทิศทางที่จะพัฒนาให้ประสบความสำเร็จจะอยู่ไกลเพียงใด แต่โรงเรียนหรือครูผู้สอนก็ไม่ควรลดระดับเป้าหมายลงมาเพื่อจะให้บรรลุผลสำเร็จได้ง่ายขึ้น ในทางกลับกัน ครูควรที่จะปรับปรุงวิธีการเรียนการสอนเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้อย่างแน่วแน่
สุดท้ายแม้ว่ากระบวนการสร้างภาวะผู้นำแก่บุคลากรทางการศึกษาอาจจะแตกต่างไปตามแต่ละบริบทของสภาพชั้นเรียน โรงเรียน หรือผู้เรียนในแต่ละพื้นที่ทั่วโลก แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนทั้งจากเนื้อหางานวิจัยของคาซัคสถาน จนถึงข้อเสนอจากงานเสวนาวิชาการนานาชาติที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันคือ ครูไม่ได้มีหน้าที่เพียงแค่สอนหนังสือตามแบบเรียนอีกต่อไป แต่จะต้องพัฒนาทักษะและภาวะผู้นำในการออกแบบชั้นเรียนให้เหมาะสม เพื่อสร้างบรรยากาศอันดีแก่การเรียนรู้ของผู้เรียนในโลกสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความท้าทายที่มากขึ้น
ที่มา:
- Zh.B.Khajayeva และ S.K.Abisheva. (2016). The Importance of Leadership and Management in Education System. BULLETIN OF THE KARAGANDA UNIVERSITY. Karaganda.
- Equitable Education Conference 2020; Session 2C: School Leadership and Management