หากการศึกษาคือฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ นักเรียนทั้งประเทศก็เปรียบเสมือนกำลังพลที่ต้องการอาหารเพื่อเสริมสร้างพลังกายและพลังสมอง แต่ถึงอย่างนั้นการมีแค่อาหารที่กินแล้วท้องอิ่ม (บางกรณีอาจไม่อิ่ม) จะสามารถสร้างพลังขับเคลื่อนประเทศได้อย่างไร หากสิ่งที่กินเข้าไปนั้นไม่มีสารอาหารที่เพียงพอต่อร่างกาย
เมนูมื้อกลางวันของเด็กไทย
อาหารกลางวันโรงเรียนของเด็กอาจเป็นแค่ ‘ขนมจีนคลุกน้ำปลา’ มติชน รายงานว่าเด็กปฐมวัยโรงเรียนบ้านท่าใหม่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องกินขนมจีนคลุกน้ำปลามานานถึง 3 ปี
หากผู้ใหญ่หรือผู้ปกครองหลายๆ ท่านได้เห็นก็คงเอามือทาบอก “อุต๊ะ อะไรกันเนี่ย” และสงสัยกันไม่น้อยว่าภาษีที่จ่ายไปนั้นถึงปากท้องเด็กแค่นี้หรือ
เมื่อโรงเรียนคือบ้านหลังที่สอง เด็กก็สมควรจะมีอาหารการกินที่ดีและได้รับสารอาหารครบถ้วนพอๆ กับที่บ้าน หรือควรจะดีกว่าที่บ้านสำหรับเด็กบางคน เพราะนี่คือพื้นฐานโภชนาการที่รัฐบาลและโรงเรียนควรจัดสรรให้เด็กทุกคนอย่างเท่าเทียม
ภาวะทุพโภชนาการของเด็กไทย
มาตรฐานอาหารโรงเรียนของไทยตามที่สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ภายใต้ความร่วมมือทางวิชาการระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกองทุนเพื่อโครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนประถมศึกษา สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ กำหนดไว้ว่า เด็กนักเรียนต้องได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ ตามสัดส่วนดังนี้
แต่ถึงอย่างนั้นบางโรงเรียนก็ไม่ได้ใช้มาตรฐานอาหารตามหลักที่กำหนดไว้อย่างถูกต้อง กล่าวคือไม่ได้มีการใช้ Thai School Lunch (ระบบที่ช่วยให้โรงเรียนสามารถจัดอาหารกลางวันที่มีคุณภาพ) และบางโรงเรียนไม่หมุนเวียนเมนูอาหารรายเดือน จึงทำให้เด็กได้รับเพียงสารอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นต้น
การที่บางโรงเรียนยังไม่สามารถปฏิบัติได้ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ ส่งผลให้เด็กนักเรียนไทยได้รับสารอาหารไม่ครบ 5 หมู่ จึงก่อให้เกิดผลเสียด้านร่างกายตามมา ทั้งนี้ สพฐ. ได้สำรวจภาวะทุพโภชนาการเด็กไทย ปี 2562 พบข้อมูลสำคัญ ดังนี้
ความเหลื่อมล้ำบนจานข้าว
การมีอาหารโรงเรียนที่ดีสะท้อนอะไรได้บ้าง เมื่อโรงเรียนหนึ่งมีทั้งผัก ผลไม้ หมู ไก่ ข้าว ขนมครบมื้อ แต่อีกโรงเรียนกลับมีแค่ ‘ขนมจีนคลุกน้ำปลา’
มองเห็นถึงความแตกต่างของอาหารกลางวันของ 2 โรงเรียนนี้ไหม แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่สะท้อนผ่านอาหารโรงเรียน
กล่าวคือ อาหารโรงเรียนเป็นสิ่งที่เด็กนักเรียนทุกคนควรเข้าถึงได้และต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ และเมื่อรัฐให้เงินอุดหนุนเพิ่มขึ้นแล้ว เหตุใดปัญหาอาหารโรงเรียนจึงยังมีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
ความเหลื่อมล้ำเหล่านี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวเด็กเอง เมื่อพวกเขาควรเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์ แต่กลับเป็นผู้เสียผลประโยชน์ การไม่ได้รับอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการจึงส่งผลให้ร่างกายของพวกเขาไม่แข็งแรง และเกิดภาวะทุพโภชนาการอย่างที่ปรากฏทุกวันนี้
อาหารโรงเรียนที่ดีและมีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก เพื่อให้พวกเขาได้มีแรงกาย และแรงกายนี้จะส่งผลให้พวกเขาพร้อมที่จะเรียนรู้มากขึ้น ข้อมูลจาก Food Reserch and Action Center (FRAC) กล่าวว่า เมื่ออาหารโรงเรียนมีสารอาหารครบถ้วนจะทำให้เด็กมีผลการเรียนที่ดีขึ้น และกระตือรือร้นในห้องเรียนมากขึ้น เมื่อเด็กร่างกายแข็งแรงแล้วยังส่งผลให้สุขภาพจิตดีตามไปด้วย (ความเฉื่อยชา เหงาหงอย ไม่อยากเรียนก็ลดลง)
การขับเคลื่อนการศึกษาไทยจะก้าวไปข้างหน้าได้ก็ต่อเมื่อเด็กไทยทุกคนต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและถูกต้องตามหลักโภชนาการ มิใช่แค่รับประทานอาหารอะไรก็ได้เพื่อให้ท้องอิ่มเพียงอย่างเดียว