Financial Technology หรือ Fintech เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ซึ่งเชี่ยวชาญในการให้บริการทางการเงินเป็นหลัก ผ่านเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือและช่องทางออนไลน์ ซึ่งแตกต่างจากเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการเงินในยุคก่อนๆ ที่จะให้ความสำคัญกับสถาบันการเงินที่มีอยู่เดิมเป็นหลัก ในขณะที่ Fintech จะเป็นการให้บริการกับผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่ต้องผ่านคนกลางอย่างสถาบันการเงินแบบที่เคยทำกันอยู่เดิม
Fintech เป็นนวัตกรรมทางการเงินที่ต้องการลดกำแพง ขยายโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงิน และท้าทายความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของภาคการเงินที่เคยเป็นอยู่เดิม โดยมีสมาร์ทโฟนเป็นกุญแจสำคัญในการดึงผู้คนเข้ามาอยู่ภายใต้ระบบการเงิน
“จะเห็นได้ว่า ในหลายๆ ประเทศการแผ่ขยายของโทรศัพท์มือถือมีสัดส่วนที่สูงมาก ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงระบบการเงินยุคใหม่” ปีเตอร์ มอร์แกน (Peter Morgan) รองประธานวิจัยจาก Asian Development Bank Institute (ADBI) ร่วมแลกเปลี่ยนในเวทีการประชุมวิชาการนานาชาติ หัวข้อ ‘Entrepreneurial Skills, Financial and Digital Literacy for the Disadvantaged Children and Youth’
การเป็นนวัตกรรมที่เพิ่งถูกนำเสนอขึ้นมาได้เพียงไม่กี่ปี ส่งผลให้ Fintech ต้องเผชิญกับความท้าทายอยู่หลายประการด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการที่ Fintech ในฐานะเป็นผู้มาใหม่ ต้องเรียกร้องให้มีการสร้างองค์ความรู้ใหม่ในส่วนของผู้ใช้งาน เพื่อให้พวกเขาสามารถรับรู้และจัดการกับความเสี่ยงได้ รวมถึงอุปสรรคจากช่องว่างในการเรียนรู้ทางการเงินดิจิทัลของกลุ่มด้อยโอกาส
ดังนั้น การผลักดัน Fintech จึงจำเป็นต้องทำควบคู่ไปกับการจัดให้มีการศึกษาเกี่ยวกับการเงินดิจิทัล (Digital Financial Education: DFE)
อะไรคือ การศึกษาเกี่ยวกับการเงินดิจิทัล?
มอร์แกนเห็นว่า การศึกษาเกี่ยวกับการเงินดิจิทัลภายใต้ Fintech นี้ จะเป็นการขยายขอบเขตไปไกลกว่าความรู้ทั้งทางด้านดิจิทัลและด้านการเงินที่เคยมีอยู่เดิม
การศึกษาเกี่ยวกับการเงินดิจิทัล เป็นความรู้ที่ครอบคลุม 4 ประเด็นหลัก คือ
- ผลิตภัณฑ์และบริการ
- ความเสี่ยงรูปแบบใหม่ๆ ที่พ่วงมากับผลิตภัณฑ์และบริการ เช่น การโจรกรรมข้อมูล
- วิธีการป้องกันจากความเสี่ยงรูปแบบใหม่เหล่านี้
- วิธีการแก้ไขหลังได้รับความสูญเสียหรือความเสียหาย จากความเสี่ยงรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้น
แน่นอนว่า ความรู้เหล่านี้ย่อมไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยง่ายด้วยตัวเอง การบรรจุเนื้อหาการศึกษาเกี่ยวกับการเงินดิจิทัลเข้าไปในหลักสูตรการศึกษา จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนากลยุทธ์ในการให้การสนับสนุนทางด้านการเงินเพื่อการศึกษา และลดช่องว่างให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน” มอร์แกนกล่าวทิ้งท้าย