สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ทำให้การศึกษาทั่วโลกต้องพึ่งพาการเรียนออนไลน์ ปัญหาที่ตามมาจึงหนีไม่พ้นความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอุปกรณ์และบริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้่นในหลายประเทศทั่วโลก
การให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจเป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยรับมือกับสถานการณ์วิกฤติเช่นนี้ได้ดียิ่งขึ้น ดังเช่นประเทศเกาหลีใต้ที่สามารถรับมือกับวิกฤติครั้งนี้ได้ดี อันเป็นผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีต ส่งผลให้การศึกษาของเกาหลีใต้อยู่ในอันดับต้นๆ จนถึงปัจจุบัน
นโยบายรัฐเข้มแข็ง
เมื่อปี 2017 เกาหลีใต้ถือเป็นประเทศอันดับ 2 ของโลกที่ประชาชนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีและสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ กว่า 30 ปีที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมาก อีกทั้งในภาคการศึกษาก็มีหน่วยงานสำหรับพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาโดยเฉพาะ เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ได้มากที่สุด
ในสถานการณ์ COVID-19 การพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษาของเกาหลีเน้นไปที่ประสิทธิภาพในการเรียนรู้รายบุคคล โดยขยายช่องทางการศึกษาออนไลน์เพื่อรองรับผู้ใช้สูงสุด 6 ล้านคนพร้อมกัน และมีการร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อให้นักเรียนเข้าถึงเนื้อหาการเรียนรู้ผ่านช่องทางต่างๆ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และพัฒนาสื่อการเรียน เช่น Digital Textbook ที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของนักเรียนรายบุคคล
ทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของ ‘ศูนย์บริหารข้อมูลด้านการศึกษาและการวิจัย’ (KERIS) ที่ต้องการสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษาผ่านเทคโนโลยี โดยเฉพาะกลุ่มเด็กฐานะยากจนที่ไม่สามารถเรียนพิเศษได้ ในขณะที่การเรียนพิเศษเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่นักเรียนเกาหลี การสร้างการเรียนรู้ที่เข้าถึงได้ทั้งในบ้านและชุมชนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น
พัฒนาครู เพิ่มทักษะเทคโนโลยี
รัฐบาลเกาหลีใต้ได้จัดทำ ‘คู่มือการจัดการศึกษาออนไลน์’ เพื่อให้การเรียนออนไลน์เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะการสอนออนไลน์ของครูอีกด้วย โดยคัดเลือกตัวแทนครู 10,000 คนทั่วประเทศ เพื่อสร้างชุมชนครูสำหรับแบ่งปันวิธีพัฒนาทักษะการสอนออนไลน์ให้แก่กัน ครูจะได้รับการอบรมและเข้าถึงเว็บไซต์สำหรับการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานการศึกษาระดับจังหวัดเพื่อให้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที
กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น
กระทรวงการศึกษาของเกาหลีใต้ทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา เพื่อให้การศึกษาออนไลน์ทั่วประเทศดำเนินไปได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยให้หน่วยงานระดับท้องถิ่นและองค์กรเอกชนมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการศึกษาของนักเรียนในพื้นที่ เช่น การสนับสนุนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และค่าบริการอินเทอร์เน็ตแก่นักเรียนที่ขาดแคลน การตัดสินใจกำหนดวันเปิด-ปิดโรงเรียน โดยผสมผสานการเรียนแบบออนไลน์และออฟไลน์เพื่อลดความหนาแน่น การจัดทำมาตรการป้องกันความเสี่ยงในการติดเชื้อโดยพิจารณาความแตกต่างของสภาพพื้นที่หรือภูมิภาค เป็นต้น
การกระจายอำนาจให้กับหน่วยงานการศึกษาในท้องถิ่น ช่วยให้ดูแลกลุ่มเด็กที่มีความต้องการพิเศษได้ดีขึ้น เช่น โรงเรียนสำหรับนักเรียนที่มีภาวะบกพร่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ด้านการศึกษาระดับจังหวัดสามารถใช้ดุลยพินิจเพื่อพิจารณามาตรการในการรับมือกับ COVID-19 ตามความเหมาะสมของพื้นที่ได้ เช่น การจัดหารถรับ-ส่งนักเรียนเพื่อลดความหนาแน่น การออกแบบการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความจำเป็นเฉพาะบุคคล การพิจารณาวันเปิด-ปิดโรงเรียน เป็นต้น
ให้ความสำคัญกับเด็กกลุ่มเปราะบาง
เพื่อคุณภาพและความเท่าเทียมทางการศึกษา รัฐบาลเกาหลีใต้ให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส ซึ่งมาจากครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ เด็กที่มีความต้องการพิเศษ ไปจนถึงครอบครัวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
หน่วยงานด้านการศึกษาจึงดำเนินการเพื่อสนับสนุนนักเรียนตามความจำเป็นรายบุคคลให้ได้มากที่สุด เช่น การแปลภาษาสื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กในครอบครัวที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม การตั้งค่าเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบ การสร้างความมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง เป็นต้น
นโยบายต่างๆ ที่รัฐส่งเสริมให้หน่วยงานการศึกษาท้องถิ่น ครู และผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาออนไลน์นั้น ทำให้นักเรียนทั่วประเทศเข้าเรียนออนไลน์กว่า 98 เปอร์เซ็นต์ แสดงให้เห็นว่าการศึกษาในภาวะวิกฤติสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่ต้องทิ้งใครไว้ข้างหลัง
โดยสรุปแล้ว ปัจจัยที่ทำให้เกาหลีใต้สามารถจัดการศึกษาออนไลน์เพื่อรับมือกับวิกฤติโรคระบาดได้ดี ได้แก่ การจัดตั้งสถาบันเฉพาะทางเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษา การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่ประชาชนเข้าถึงได้ และการให้ความสำคัญกับกลุ่มเด็กเปราะบาง รวมทั้งการร่วมมือกันระหว่างภาคส่วนต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ระบบการศึกษาในเกาหลีใต้ก้าวต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ในภาวะวิกฤติที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต