เมื่อเร็วๆ นี้ มีพิธีลงนามความร่วมมือ การพัฒนาศักยภาพและลดความเหลื่อมล้ำด้านการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ระหว่างสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (สบร.) หรือ OKMD และ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) หรือ EEF โดยมี ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สบร. และดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. ร่วมลงนาม
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สบร. กล่าวว่า ความตั้งใจของ OKMD คือ การกระจายองค์ความรู้ให้ทั่วถึง ครอบคลุม ลดความเหลื่อมล้ำ ที่อยู่ในทุกจุด ทั้งเทคโนโลยี สถานะทางสังคม เศรษฐกิจ การเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ถือเป็นภารกิจสำคัญ ซี่ง OKMD เห็นพ้องในเป้าหมายร่วมกับ กสศ. ขับเคลื่อนด้านการเรียนรู้ของเด็กเยาวชน เพราะคนที่เข้าถึงความรู้ จะได้เปรียบ ทั้งในเชิงลึก เชิงกว้าง หรือการเข้าถึงได้เร็ว หรือต้นทุนต่ำกว่า ดังนั้น การเข้าถึงองค์ความรู้สมัยใหม่ถือเป็นความจำเป็นยิ่งยวดสำหรับศตวรรษที่ 21 สำหรับข้อตกลงนี้จะนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำ รวมถึงความร่วมมือพัฒนาการเรียนรู้ร่วมกันได้อย่างหลากหลายในอนาคต
หัวใจสำคัญ คือ 1.การกระจายองค์ความรู้ แหล่งความรู้เข้าถึงกลุมเป้าหมายทันท่วงที และตรงตามความต้องการ ผ่านกลไกทางกายภาพ เช่น หนังสือ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์โมบายไปตามจังหวัดต่างๆ รวมถึงการเข้าถึงแพลตฟอร์มทางดิจิทัล ซึ่ง OKMD ได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่ใช้ AI ค้นหาองค์ความรู้ได้แม่นยำมากขึ้น เรียกว่า OKMD KNOWLEDGE PORTAL เว็บไซต์ที่เข้าถึงแหล่งความรู้ที่มีความชัดเจนและเป็นอัลกอริทึมที่ที่ทำให้การเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่แท้จริง สะดวก รวดเร็ว
2.ความร่วมมือในเชิงงานวิจัย และเชิงนโยบายด้านกระบวนการเรียนรู้ของเด็กในทศวรรษ ใหม่เปลี่ยนแปลงไปไม่ใช่ในตำรา ห้องเรียน โรงเรียนอย่าเดียว แต่ประสบการณ์ชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ทุกอย่างการเล่น กีฬา ดนตรี เกม เป็นกระบวนการเรียนรู้ (LEARNING PROCESS) ที่จะทำอย่างไรให้นโยบายLEARNING PROCESS สามารถกระตุ้นความอยากรู้ของเด็กได้มากยิ่งขึ้น
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าในประวัติศาสตร์ที่ร่วมสร้างให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ดิสรัปกระบวนการเรียนรู้ ที่ต้องการแรงผลักดันจากทุกภาคส่วนให้การศึกษาของไทยมีกระบวนการที่พร้อมรับการเรียนรู้รูปแบบใหม่ในศตวรรษที่ 21
ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการ กสศ. กล่าวว่า การพัฒนาองค์ความรู้ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำการศึกษาเป็นหนึ่งในวัตถุประสงค์ของกสศ. แต่ไม่สามารถทำโดยลำพัง ต้องทำงานร่วมกับภาคีที่มีภารกิจคล้ายคลึงกัน การบริหารองค์ความรู้ที่จะเกิดจากความร่วมมือครั้งนี้ มีองค์ความรู้ 2 ลักษณะ คือ 1.องค์ความรู้ที่จะช่วยให้เด็กเยาวชนที่มีรายได้น้อยเป็นกลุ่มด้อยโอกาสที่มีมากกว่า 4 ล้านคนทั่วประเทศ สามารถออกจากกับดักความยากจนได้ในช่วงชีวิตของเขา ตัดวงจรความจนข้ามชั่วรุ่น และประเทศไทยออกจากกับดักรายได้ปานกลางรุ่นของเราได้เช่นกัน 2.องค์ความรู้ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ไม่ใช่องค์ความรู้ที่ไปที่ตัวเด็ก แต่ทำอย่างไรให้นวัตกรรม เทคโนโลยี ข้อมูล ในการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในระบบการศึกษา ทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยจัดการองค์ความรู้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ประชาชน ร่วมกันลดเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้
ดร.ไกรยส กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ทำให้เกิดภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ จำเป็นต้องมีการฟื้นฟูการเรียนรู้ ซึ่ง กสศ. พบมีเด็กหลายคนไม่ใช่ถดดอยทางการเรียนรู้เท่านั้น แต่การพัฒนาของกล้ามเนื้อมัดเล็กใหญ่ก็มีปัญหาไปด้วยเช่นกัน โดยเด็กจับดินสอปากกาไม่ได้ ไม่ถนัด ซึ่งเป็นพัฒนาที่วัยนี้ควรจะมี รวมถึงด้านโภชนาการบางคนน้ำหนักส่วนสูงล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น รวมถึงความมั่นใจ การกลับสู่สังคม ต้องทำให้เด็กทั้งคนกลับมาสู่การศึกษาได้
“กสศ. มีความตั้งใจอยากให้หน่วยงานของรัฐช่วยกันผลักดันแนวคิด ระบบการศึกษาควรมีความหยืดหยุ่นมากขึ้น การเรียนรู้ไม่ได้อยู่แต่ในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว การเรียนรู้เกิดที่บ้านก็ได้ ที่จุดใดก็ได้ เพื่อพัฒนาให้เกิดการเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา และอยากชวนสังคมไทยให้เห็นว่า ไม่มีการศึกษาระบบนอกการศึกษาอีกต่อไป เพราะอยู่ในระบบการศึกษาที่มีทางเลือกสำหรับทุกคน ไม่มีกำแพงสำหรับการเรียรรู้”
ข้อตกลงฉบับนี้ เป็นการสนับสนุนให้ OKMD สถาบันอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) และสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (Museum Siam) เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่ง กสศ. จะให้ข้อมูลชี้เป้าที่เด็กต้องการโอกาสการเรียนรู้ฟื้นฟูการเรียนรู้ อยู่ที่ไหน และการพัฒนานวัตกรรม ผ่านการวิจัยนำต่อยอดเชิญ สตาร์ทอัพ รวมถึงแรงงานนออกระบบที่ต้องการรีสกิล/อัพสกิล เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก การใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีการเรียนรู้ ผ่านสมาร์ทโฟน และการทำข้อเสนอเชิงนโยบาย เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน
สุดท้าย…ความเสมอภาคทางการศึกษาเป็นเรื่องที่ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วมได้ และเป็นเจ้าของร่วมกัน