สถาบันวิจัยเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (วสศ.) ชวนแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้อำนวยการ ครู และผู้คิดค้นพัฒนานวัตกรรม Kruator card ผ่าน Equity Talk ครั้งที่ 15 ในหัวข้อ “ออกแบบการสอนอย่างไร ให้โดนใจวัยเรียน” เพื่อตามหาเครื่องมือที่จะช่วยเติมเต็มให้การเรียนรู้ของนักเรียนกลับมาสนุกอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนแบบออนไลน์หรือออฟไลน์
ครูภูริทัต ชัยวัฒนกุล ครูใหญ่ฝ่ายมัธยม โรงเรียนเพลินพัฒนา มองว่า
วิกฤตโควิด-19 เป็นความท้าทาย ตั้งแต่ช่วงมีนาคน-เมษายน 2563 ถือเป็นช่วงชุลมุนที่การเรียนต้องไปต่อแต่เด็กมาโรงเรียนไม่ได้ ในฐานะผู้บริหารสถานศึกษาต้องปรับเปลี่ยนหลายอย่าง อันดับแรกคือ ปรับใจ ต้องบริหารวิกฤตโดยนำการเรียนออนไลน์มาปรับใช้ เปิดพื้นที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่มีความถนัด เป็นจุดที่สำคัญที่สุด เพราะคนรุ่นใหม่รู้ว่าเด็กต้องการอะไร รู้จักเครื่องมือ คุ้นเคยกับเทคโนโลยี การเรียนออนไลน์ไม่ใช่เพียงนำเนื้อหาแบบเดิมมาใส่แล้วบอกเรียนออนไลน์ แต่ครูรุ่นใหม่สามารถจัดการเรียนการสอนแบบแอคทีฟเลิร์นนิ่งได้ดีด้วยอันดับต่อมาคือการรีสกิลคุณครูในการเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม
“ความพร้อมของครู พ่อแม่ เด็ก ในแง่อารมณ์ ความทุกข์จากภาวะวิกฤตในช่วงนั้นที่ประดังเข้ามาในชีวิตโรคภัย เศรษฐกิจ ในฐานะโรงเรียนจะช่วยโอบอุ้มอย่างไร เพราะครูก็มีครอบครัวแต่ต้องดูแลเด็กและครอบครัวคนอื่นต่อให้ได้ รวมถึงเด็กที่ขาดความพร้อมเรื่องเครื่องมือ หรือใช้เครื่องมือไม่เป็น หรือเด็กยังกำกับตัวเองไม่ดีนัก”
ครูภูริทัต บอกว่า โรงเรียน ครู ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว ปรับตารางสอนที่เอื้อต่อการเรียนรู้ สำหรับโรงเรียนเพลินพัฒนา ในชั้นมัธยมต้น ใช้สูตรเรียนคาบละ 40 นาที เบรก 10 นาที เบรกใหญ่ 20 นาที พักเที่ยง 30 นาที ดังนั้นการเรียนการสอนจะเหลือ 6 คาบ/วัน ขณะที่โรงเรียนทั่วไปได้ยินปัญหาจากคุณครูมาเยอะมากเช่น ครูต้องสอนวันเสาร์ ทั้งที่ต้องรับภาระเรื่องการสอน วิกฤตนี้จึงเหมือนสงครามโลก ทุกคนประสบความเครียด ครูต้องทำงานหนักและโหลดเกินไป หลังจากสอนเสร็จต้องรายงานกับฝ่ายวิชาการทุกครั้ง ส่วนเด็กก็ทุกข์เพราะการบ้านล้นมือ ถ้าทุกวิชาทุกวัน 7-8 คาบ แทบไม่มีเวลาทำการบ้าน ผู้บริหารต้องเข้าใจและดูแลจิตใจครูและเด็ก เปลี่ยนจากการเป็นผู้สั่งการเป็นผู้สนับสนุน
ครูภูริทัต บอกว่า ตัวช่วยหรือเครื่องมือที่จะช่วยเติมเต็มให้การเรียนรู้ของนักเรียนกลับมาสนุกอีกครั้ง มาหลายช่องทางอย่าง Inskru – พื้นที่แบ่งปันไอเดียการสอน เพื่อนพลเรียน กสศ. มีตัวอย่างที่ดี เป็นพื้นที่ที่ได้แบ่งปันการเรียนรู้ที่ดี สร้างการมีส่วนร่วม อย่างโปรแกรม Kahoot ที่สำคัญทำอย่างไรให้โอกาสครูออกมาแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน โรงเรียนอยู่ในฐานะชุมชนแห่งการเรียนรู้ (SLC) มีภาระงานเท่าที่จำเป็น หยิบนโยบายมาดำเนินการภายใต้การคัดสรรของผู้บริหาร แบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC)
ครูปิยธิดา เสรีเบญจพล ครูสาขาวิชาภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสุรวิวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
มองคล้ายคลึงกันว่า การเรียนออนไลน์เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปรับตัวปรับใจ เพราะมีความต่างจากเรียนในห้องเรียน ผู้บริหารต้องเตรียมความพร้อมสำหรับครู เพื่อการทำงานไหลรื่น ทั้งอุปกรณ์ สัญญาณ ขณะที่ครูก็ต้องพร้อมที่จะอัพสกิล รีสกิล การเรียนจะประสบความสำเร็จได้ต้องได้ความร่วมมือจากทั้งครู ผู้ปกครอง นักเรียน
“เด็กวัยนี้ต้องมาโรงเรียนเจอเพื่อน พอเรียนออนไลน์อยู่บ้านคนเดียว ทำให้ขาดการพัฒนาการสื่อสาร การเข้าสังคม การเรียนรู้จากเพื่อน การอยู่หน้าจอหลายคาบ ออนไลน์อยู่คนเดียวใจหลุดลอยได้ง่ายกว่าอยู่โรงเรียน บางคนอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ยาก การสื่อสารยากขึ้น ขาดปฏิสัมพันธ์สื่อสาร เช่น งานกลุ่ม หรือการทำงานเป็นทีม เกิดความเหลื่อมล้ำสูง ขณะที่ชั่วโมงโฮมรูมยังมีความจำเป็นกับเด็กๆ เป็นการได้ดูแลใจเด็ก สำหรับครู ไม่จำเป็นต้องเปิดกล้อง ใช้วิธีการพิมพ์ตอบมาในไลน์ ใช้วิธ๊โทรศัพท์ ใช้หลายๆ ส่วนร่วมกัน แต่ต้องได้ยินเสียงของทุกคน”
เมื่อถามว่าออกแบบการเรียนการสอนอย่างไรให้ในห้องเรียนมีความสุข ครูปิยธิดา มองว่า การทำให้นักเรียนมีความสุข เริ่มจากครู คนที่รับสารจากเราจะรับรู้ได้ ครูต้องให้กำลังใจตัวเองในแต่ละวัน วางทุกข์ไว้ แล้วส่งความสุข ครูเป็นคนสำคัญที่สุดกับเด็ก เทคโนโลยีแม้จะเลิศหรู แต่ครูจะสัมผัสใจของเขาได้ ต้องมีความสุขก่อน ดังนั้นอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญ ครูต้องใจเย็นและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกได้ มีความยืดหยุ่น เพราะเราไม่รู้ปัจจัยอะไรที่เด็กต้องเจอเมื่ออยู่ที่บ้านบ้าง ครูถือเป็นที่พึ่งของเด็ก ฉะนั้นให้กำลังใจคุณครู หากเหนื่อยไม่รู้จะทำอย่างไรดี หรือตัน ลองเข้ามาแชร์ หรือใช้เทคโลยีการศึกษาเป็นตัวช่วยยกตัวอย่างเกมตอบคำถามแบบโต้ตอบ เช่น Vonder Go Kruator card
วราลี เนติศรีวัฒน์ (แนน) Learning Designer จาก Inskru ผู้คิดค้น Kruator card
มองว่า การเรียนออนไลน์ส่งกระทบเกิดเป็นปัญหาระดับปัจเจกถึงระดับโครงสร้าง ในฐานะครู สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ การมีปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ต่อมนุษย์ทั้งอวัจนะและวัจนะ คือการสร้างการเรียนรู้ และการสร้างความสัมพันธ์ 2.การสอนออนไลน์ไม่เท่ากับการสอนออนไซด์ ที่มีควาต่างชัดเจน ทั้งเวลาเรียนในห้อง หน้าจอที่นั่งแช่ตลอดเวลา มีความเหนื่อยล้า เรียนออนไลน์ เด็กไม่ตอบโต้ก็สังเกตไม่เห็น ถ้าไม่เปิดกล้อง ครูอาจเพิ่มช่องทางอื่นเช่น แชท หรือมีกระบวนการกลุ่มย่อย ช่วยให้มีปฏิสัมพันธ์เพิ่มขึ้น 3.ต้องคำนึงถึงฐานกาย ต้องยึดการเรียนรู้แบบสามฐาน คือ หัว กาย ใจ แต่ออนไลน์จะคำนึงถึงฐานกายน้อยมาก ทั้งที่สามารถปลั๊กอินกับกระบวนการสอนได้ ดังนั้น สิ่งที่ครูเคยใช้ได้กลับใช้ไม่ได้อีกต่อไป นำมาสู่การรีสกิล การพัฒนาตนเอง
วราลี บอกอีกว่า หากโรงเรียนไม่ได้เป็นชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพหรือ PLC ที่เป็นการรวมตัว รวมใจ รวมพลัง ร่วมมือกันของครู ผู้บริหารและนักการศึกษาในโรงเรียน ครูอาจรู้สึกเหนื่อยมาก แนะนำให้มองหาไอเดียการสอนที่ Inskru คุณครูจะรู้สึกได้รับพลัง เรามีกิจกรรมให้เข้าร่วมเวิร์คชอป อัพสกิลและรีสกิล แชร์ประสบการตรงของผู้เรียนผู้สอน ถือเป็นจุดบำบัดที่ได้ให้หัวใจฟู ส่วน Kruator card คือ การ์ดออกแบบการเรียนการสอนจาก Equity Lab และ insKru ที่เหมาะสำหรับคุณครูที่อยากพลิกโฉมชั้นเรียนที่สุดแสนธรรมดาให้สนุก สร้างสรรค์ ให้ทั้งครูและนักเรียนมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น พร้อมกับตัวอย่างกิจกรรมที่ให้คุณครูนำไปเลือกใช้ได้อย่างหลากหลาย
ศศิธร เรี่ยวธรรมรัฐ Experience Designer จาก Equity Lab ผู้พัฒนา Kruator card
ถึงการออกแบบการสอนให้สนุกและจะมาแนะนำเครื่องมือที่ช่วยครู ให้ข้อมูลที่เจาะลึกว่า การออกแบบการเรียนรู้ที่สำคัญคือการทำให้การเรียนรู้นั้นสนุก หากเรียนแล้วสนุกย่อมมีผลต่อการผู้เรียน จดจำ เป็นสภาพแวดล้อมที่อยากเรียนรู้ต่อเรื่อยๆ สำหรับ Kruator card เป็นการส่งต่อเครื่องมือให้คุณครู เป็นตัวช่วยในการออกแบบการเรียนรู้แบบใหม่ๆ ที่ครูสามารถสร้างสรรค์ได้เอง
ผู้พัฒนา Kruator card เล่าต่อว่า ปัจจุบัน Kruator card หนึ่งสำรับจะแบ่งการ์ดเป็น 4 กลุ่มคือ การ์ดสถานการณ์ การ์ดทักษะ การ์ดไอเดีย การ์ดคำถาม เมื่อนำการ์ดมาร้อยเรียงเป็นกิจกรรมใหม่ๆ ก็จะช่วยปลดล็อกปัญหาการคิดไอเดียการสอนไม่ออกของคุณครู
1.การ์ดสถานการณ์แทนบริบทที่คาดว่าครูจะเจอในชั้นเรียน ส่งผลกับการออกแบบการสอนกับครูเช่น สภาพห้องเรียน ข้อจำกัดทั้งของครูและนักเรียน โจทย์ที่ต้องพบเจอ มาท้าทายภายใต้สถานการณ์ต่างๆ
2.การ์ดทักษะ เป็นการสอนบูรณาการมากขึ้น ไม่ตอบผลลัพธ์ข้อเดียวหรือสองข้อ สามารถสอดแทรกเนื้อหาในการเรียนการสอน ทักษะความคิดสร้างสรรค์ ทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21
3.การ์ดไอเดีย เป็นพระเอกหลักรวบรวมกิจกรรมในชั้นเรียน มีหัวข้อที่เข้าใจง่าย มีคิวอาร์โควทฐานข้อมูล ประสบการณ์ที่นำไปใช้เป็นแรงบันดาลใจของครูในการออกแบบการเรียนการสอนต่อไป
4.การ์ดคำถาม ช่วยตรวจสอบการออกแบบการสอนโอเคมีความสมเหตุสมผลไหม หรือได้ตอบโจทย์ที่ตั้งไว้หรือยัง โดยมีการลงพื้นที่ทดสอบการ์ดเพื่อพัฒนาเนื้อหา และกลไกการเล่น พัฒนาให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างคาบเรียนที่ออกแบบด้วย Kruator card ของครูโจ วิชาภาษาไทย ม.5 จุดประสงค์เพื่อให้นักเรียนได้อ่านวิเคราะห์วรรณคดี
แบ่งเป็น 3 ขั้นตอน
1.นำ จะเกริ่นถึงวรรณคดี วงล้อเสี่ยงทายชื่อนักเรียนวรรณคดี
2.สอน โดยจำลองสถานการณ์ เขียนโพสอิท จัดหมวดหมู่ ตั้งคำถามที่เกิดขึ้นและมีการอภิปราย
3.สรุป ใช้การแต่งกาย บทบาทสมมติตามวรรณคดี แต่เปลี่ยนตอนจบใหม่ ดีกับทุกตัวละคร ฝึกความคิด สร้างสรรค์ สังเคราะห์ข้อมูลทำให้เห็นภาพเป็นละคร การแสดง
สุดท้ายการออกแบบการสอนที่ดี มีประสิทธิภาพ อาจไม่ต้องเฮฮาขำกลิ้งตลอดเวลา เพียงแค่การเปิดพื้นที่ที่เด็กได้ตัดสินใจ อาจมีเรื่องไม่คาดฝัน หรือได้ทดลองทำอะไรก็สนุกได้เหมือนกัน การได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้ทดลองและเรียนรู้ไปพร้อมกันทั้งครูและนักเรียน เป็นห้องเรียนที่ช่วยเติมเต็มความสุขทั้งผู้เรียนและผู้สอน