องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี เทศบาลเมืองปัตตานี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 12 สมาคมทัศนมาตรแห่งประเทศไทย คณะทัศนมาตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี โรงพยาบาลปัตตานี พร้อมอาสาสมัครสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ ศูนย์คุ้มครองสิทธิบัตรทองจังหวัดปัตตานี ร่วมกับ Equity lab ภายใต้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กสศ. เดินหน้าจัดกิจกรรมตรวจคัดกรองสายตาเชิงรุก ครอบคลุมเด็กและเยาวชนทั้งจังหวัดปัตตานี ขยายผลโครงการออกแบบนวัตกรรมเพื่อการคัดกรองสายตา หรือ “I SEE THE FUTURE” เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสายตาที่เป็นหนึ่งในอุปสรรคสำคัญของการเรียนรู้และปิดจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษา ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองสายตา เกิดระบบการส่งต่อเด็กและเยาวชนที่มีปัญหาให้ได้รับการรักษา และเข้าถึงแว่นตาที่มีคุณภาพ เหมาะสมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ภายใต้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
การขับเคลื่อนงานในระยะนี้ ดำเนินการผ่านหน่วยงานท้องถิ่นเป็นหลัก โดยมีการบูรณาการทำงานระหว่างหน่วยงานภาคสาธารณสุข และหน่วยงานภาคการศึกษา เพื่อให้เกิดระบบการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืนในระดับพื้นที่ พร้อมทั้งมีการขยายกลุ่มเป้าหมายครอบคลุมเด็กและเยาวชนทั้งจังหวัด รวมไปถึงเด็กและเยาวชนที่ตกหล่นจากระบบการศึกษา ซึ่งเชื่อมโยงไปสู่ภารกิจ Thailand Zero Dropout ให้สามารถเข้าถึงบริการตรวจคัดกรองสายตาและเข้าถึงสิทธิการรักษา หรือ การดูแลช่วยเหลือที่สอดคล้องกับเด็กและเยาวชนเหล่านี้เป็นรายกรณี
ทั้งนี้ ได้มีการเริ่มดำเนินการตรวจคัดกรองสายตานักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในโรงเรียนทุกสังกัดในเขตอำเภอเมืองและอำเภอหนองจิก โดยมีการคัดกรองเบื้องต้นผ่านคุณครูอนามัย และ รพสต. และส่งต่อเด็กเยาวชนเข้ารับการตรวจคัดกรองสายตาแบบละเอียดกับนักทัศนมาตรอีกครั้ง โดยมีนักเรียนที่เข้ารับการตรวจคัดกรอง ทั้งหมดจำนวน 789 คน พบว่า มีนักเรียนที่ต้องตัดแว่นสายตา 566 คน ตัดแว่นและส่งพบจักษุแพทย์ จำนวน 31 คน และส่งพบจักษุแพทย์ อีก 12 คน และจะดำเนินการตรวจคัดกรองในเขตอื่นๆในลำดับถัดไป



นางสาวมาริสา เกียรติศักดิ์โสภณ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุข องค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี กล่าวถึง การดำเนินงานในครั้งนี้ว่าเป็นการขยายผลต่อยอดจากโครงการตรวจคัดกรองสายตาเชิงรุกและตัดแว่น “I See The Future” ที่ทาง กสศ. ได้ริเริ่มแนวทางไว้เมื่อปี 2567 ซึ่งกระตุ้นให้เราเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสายตาที่ส่งผลต่อการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ ตลอดจนปริมาณเด็กและเยาวชนที่ต้องการความช่วยเหลือ นายกอบจ. จึงได้มอบนโยบายให้กองสาธารณสุขเป็นผู้ดูแลโครงการในระยะนี้ เพื่อขยายการเข้าถึงการตรวจคัดกรองสายตาและการแก้ไขปัญหาสายตาในเด็กและเยาวชนทั้งจังหวัด โดยลดขั้นตอนการตรวจคัดกรอง ทำให้เข้าถึงง่ายขึ้นในรูปแบบ One Stop Service
“เราไม่อยากตั้งรับ เพราะว่าถ้าเราตั้งรับแก้ไขมันสายไปแล้ว อย่าลืมว่าเด็กแต่ละปีมันเร็วมาก สายตานี่ก็เปลี่ยนเร็วมาก แต่ถ้าเราทำเชิงรุก เราทำการคัดกรองโดยเร็ว โดยที่เป็นนโยบายของ อบจ. เองว่า ถ้าเราพบปัญหาสายตาเด็กคุณต้องมาเลย ซึ่งเรามองว่าการทำงานในเชิงรุกมันสำคัญมาก”

จากการสำรวจและคัดกรองเบื้องต้นในระยะนี้ พบว่า เด็กและเยาวชนมีความผิดปกติทางสายตา ประมาณ 3,700 กว่าคน จาก 200,000 คน ซึ่งอบจ. ได้มีการทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับ ชุมชน โรงเรียน รพสต. ไปจนถึงระดับโรงพยาบาล ในการตรวจคัดกรองและติดตาม ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงและดูแลช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม ทั้งเด็กที่อยู่ในระบบการศึกษาและเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา สำหรับเด็กในระบบการศึกษา มีการจัดอบรมให้คุณครูอนามัยในโรงเรียน หรือ รพสต. มาคัดกรองเด็กเบื้องต้น แล้วส่งต่อให้นักทัศนมาตรลงพื้นที่มาตรวจคัดกรองซ้ำอีกครั้ง หากพบว่าเด็กมีความผิดปกติจะส่งพบแพทย์ต่อไป สำหรับเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษา จะมีการทำงานเชื่อมโยงกับ 3 หน่วยงาน ได้แก่ อสม. ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบนั้นๆ ซึ่งสามารถที่จะสำรวจและติดตามจาก อสม.ก่อนได้ ถัดมาคือ รพสต. จะมีการทำงานร่วมกับรพสต. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่ครอบคลุม 130 ตำบล และแพทย์ที่อยู่โรงพยาบาล ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามเด็กนอกระบบการศึกษาได้
นอกจากนี้ทางอบจ. ได้มีการบันทึกข้อมูลของเด็กและเยาวชนที่มีปัญหาสายตาและได้รับการคัดกรอง ผ่านระบบ Vision ปัตตานี ซึ่งเป็นข้อมูลที่หน่วยงานในพื้นที่สามารถเห็นได้ถึงสถานการณ์ปัญหาในปัจจุบัน และความวิกฤติของปัญหา รวมถึงเป็นฐานข้อมูลที่จะใช้เชื่อมโยงไปสู่การจัดทำนโยบายในระดับจังหวัด
ดร.สุริยา หมาดทิ้ง ศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงบทบาทสำคัญของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดในการขับเคลื่อนโครงการระยะนี้ โดยทำหน้าที่ประสานการทำงานระหว่างสถานศึกษา คุณครูผู้รับผิดชอบ และหน่วยบริการสุขภาพในระดับท้องถิ่น เช่น โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อให้นักเรียนสามารถเข้าถึงกระบวนการคัดกรอง วินิจฉัย และรับสิทธิ์ตัดแว่นสายตาได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อมโยงตั้งแต่การจัดอบรมคุณครูในการคัดกรองสายตาขั้นต้น
การประสานส่งต่อข้อมูลกับโรงพยาบาลในพื้นที่ ไปจนถึงการประสานงานกับหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อสนับสนุนการติดตามและดูแลนักเรียนที่มีปัญหาทางการมองเห็น
นอกจากนี้ ดร.สุริยา ยังเน้นย้ำว่า การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนในช่วงวัยเรียนที่มีปัญหาทางสายตาถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการช่วยลดอุปสรรคในการเรียนรู้ โดยเฉพาะทักษะการอ่านออกเขียนได้ อันเป็นหัวใจสำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของจังหวัดปัตตานีอย่างยั่งยืน

ด้าน นางกัลยา เอี่ยวสกุล ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงบทบาทภายใต้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งสนับสนุนในเรื่องของสิทธิประโยชน์ให้กับกลุ่มเด็กตั้งแต่อายุ 3 -15 ปี ในการที่จะได้รับสิทธิในเรื่องของแว่นตา และการคัดกรองสายตา โดยในปีนี้ปัตตานีเป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีการเขียนโครงการผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพเพื่อดำเนินการตรวจคัดกรองสายตาและตัดแว่นให้กับเด็กและเยาวชน ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจการส่งเสริมป้องกัน ฟื้นฟูสุขภาพ โดยที่ผ่านมาอาจยังไม่ค่อยมีหน่วยงานมาเขียนโครงการของบ จึงอยากประชาสัมพันธ์และเชิญชวนหน่วยงานในพื้นที่มาเขียนโครงการของบประมาณได้

ในขณะที่ ผู้ปกครองของน้องเจ้านาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอนุบาลปัตตานี กล่าวว่า โครงการตรวจสายตาเชิงรุกและตัดแว่นครั้งนี้ ทำให้ได้รับรู้ถึงสิทธิในหลักประกันสุขภาพที่ไม่เคยรู้มาก่อน ซึ่งมองว่าความตระหนักรู้ในเรื่องการเข้าถึงสิทธิในด้านนี้นับว่าสำคัญมาก การตรวจคัดกรองสายตาและตัดแว่นตาฟรีไม่เพียงแต่แบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครองที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ยังช่วยให้พัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กเติบโตอย่างสมวัยอีกด้วย


